2008-12-24

Auld Lang Syne

"Auld Lang Syne" is a Scottish poem written by Robert Burns in 1788 which may be translated into English literally as "old long since", or more idiomatically, "long long ago" or "days gone by". "For old time's sake" or "to the good old days" may be modern-day expressions. The song "Auld Lang Syne" is usually sung each year at midnight on New Year's eve and signifies the start of a new year. In Thailand the melody is used along with a similar lyrical sentiment at New Year and is commonly believed to be a Thai traditional song. It is also used for สามัคคีชุมนุม, sung after sport events. Before the composition of the national anthem, the lyrics of Korea's anthem were sung to the tune of this song; now though, it is used as a farewell song to friends.

นึกถึงจดหมายที่เพื่อนสนิทคนหนึ่งเขียนให้ก่อนไปเกาหลี ตอนนี้จดหมายฉบับนั้นก็ยังคงถูกเก็บอยู่อย่างดีที่เกาหลี เอาไว้อ่านเวลาที่ท้อแท้ ไม่เชื่อมั่นในตัวเอง ซึ่งบางครั้ง เมื่ออ่านไปแล้วก็ได้กำลังใจ เพราะว่าเพื่อนเชื่อมั่นในตัวเราเสมอ แต่บางครั้ง กลับยิ่งรู้สึกผิดที่ทำให้เพื่อนคิดมาตลอดว่าตัวฉันนั้นเข้มแข็ง

เพื่อนของฉันเชื่อเสมอว่า ฉันทำอะไรก็จะต้องสำเร็จ บางครั้งฉันก็ตั้งใจอ่านข้ามประโยคเหล่านี้ไปเสีย เพราะมันยิ่งทำให้ฉันอ่อนแอ เหมือนกับว่าชีวิตในมหาวิทยาลัยที่พวกเรารู้จักกัน เป็นเพียงการเล่นละคร และฉันก็ทำได้ดีเสียด้วย เพราะในความเป็นจริงแล้ว ฉันไม่ใช่คนเก่ง ฉันไม่ใช่บุคคลตัวอย่าง และฉันก็ไม่ได้เพอร์เฟ็คอย่างที่เธอบอกไว้ในจดหมาย จริงๆ นะ ฉันไม่เคยนึกถึงตัวเองแบบนั้นเลย

แต่ประโยคเดียวที่ฉันยังคงนึกถึงอยู่เสมอ แม้ว่าฉันจะไม่มีจดหมายอยู่ตรงหน้าตอนนี้ ฉันก็ยังจำได้ และมันจะยังคงติดตัวฉันไปอีกนาน มันไม่ได้สาธยายคุณความดีของฉัน ไม่ได้ทำให้คนที่ได้ยินได้อ่านรู้จักฉันมากขึ้น ไม่ได้ทำให้โลกนี้สวยงาม ฉันไม่ได้สูดมันเข้าไปแทนอากาศ ฉันไม่ได้กินมันต่างข้าว และฉันก็ไม่ได้ท่องจำมันเหมือนกับบทเรียน

ไม่มีใครต้องการคำพูดแบบนี้เพื่อให้สามารถมีชีวิตอยู่ได้
แต่หลายคนต้องการคนที่จะมาพูดแบบนี้ เพื่อให้สามารถมีความสุขกับชีวิตได้


"... แกเป็นเพื่อนสนิท Top 5 ในชีวิตเราเลยรู้ไหม? เรามีเพื่อนสนิทไม่มาก และเพื่อนบางคนก็มาสนิทกันได้เพราะเรียนด้วยกัน บางคนก็ชอบอะไรคล้ายกัน แต่แกเป็นเพื่อนแบบที่ในชีวิตหนึ่ง คนเราต้องมีเพื่อนแบบนี้~"

ขอบคุณจุ๊ เพราะแกคงไม่รู้ว่า จดหมายของแกทำให้ความขมขื่นของชีวิตที่ตกตะกอนอยู่ลึกๆ หายไปหมดเวลาที่ร้องไห้ออกมา (เหมือนยาระบายใช่มั้ย?) ขอบคุณที่ดีใจเวลาที่เราโทรหาจากเกาหลี ขอบคุณที่ตอนเรากลับเมืองไทยยังจำเสียงเราได้แม้ว่ามันจะเป็นเบอร์ในประเทศที่แปลกๆ และเราพูดแค่ 'ฮัลโหล..' ขอบคุณทุกอย่างเยอะแยะ บอกไปก็ไม่หมด เพราะว่าเรื่องที่เล็กที่สุด ก็ทำให้คนมีความสุขได้เหมือนกัน

รวมถึงขอบคุณเพื่อนคนพิเศษอื่นๆ โดยเฉพาะสตาฟฟ์และสมาชิกชินฮวาไทยแลนด์ดอทคอม ที่อยู่ด้วยกันตลอด เหมือนกับว่าเราเจอกันทุกวัน (ในคอมฯ) มันดูเป็นคำขอบคุณที่ไร้สาระ แต่มันทำให้ชีวิตดีขึ้นเยอะจริงๆ นะ มันเหมือนกับวันเซ็งๆ ที่เรากลับมาบ้านแล้วเจอพี่ๆ น้องๆ นั่งแย่งขนมกันอยู่หน้าทีวี หรืออะไรประมาณนั้น มันทำให้ดูสึกดีอย่างน่าประหลาด ไม่รู้สิ~ เข้าใจกันมั้ยเนี่ย...

เอาเป็นว่าขอบคุณก็แล้วกัน มีความสุขกับเทศกาลที่ไม่ใช่ของประเทศเราแต่ดั้งเดิม (คริสต์มาส) กันไปก่อน แล้วปีใหม่นี้ มาทำให้ชีวิตดีขึ้นด้วยกัน (และทำโลกให้น่าอยู่ขึ้น?)

No comments:

Post a Comment