2008-12-28

คนที่บอกว่า 'อยากตายในฐานะนักแสดง'

มันยากมากหรือ'ไงที่คนหนึ่งคนจะเป็นนักแสดง? คนคนหนึ่งบอกว่าเขายังไม่ใช่นักแสดง เขาเป็นแค่สิ่งที่อยู่ระหว่างคนเดินถนนกับนักแสดง และเขากำลังค้นหาตัวเองว่าควรอยู่ตรงไหนกันแน่ แล้วเขาจะจบบทสัมภาษณ์ที่ฟังกี่ครั้งก็ยังประทับใจว่า "... (ไม่ว่าจะเป็นเมื่อไหร่) ตอนที่ผมต้องตาย ผมก็อยากจะตายในฐานะนักแสดง" อะไรจะดูเป็นสถานะที่ยิ่งใหญ่ได้ขนาดนั้น ฟังดูโอเวอร์ แต่ก็ยังเข้าใจได้ ฉันคิดอะไรอย่างนั้นไม่ได้หรอกนะ ฉันไม่สามารถยึดติดกับอะไรอยากเดียวได้หรอก ฉันไม่ค่อยสนใจวิธีการเท่าไหร่หรอก แล้วฉันก็ไม่แคร์คำนิยามของอาชีพใดอาชีพหนึ่งด้วย ถ้าฉันอยากเห็นโลกสงบสุข ฉันก็จะทำอะไรก็ได้ที่น่าจะทำให้โลกมันสงบสุข ฉันไม่ได้อยากถูกจดจำโดยคนทั้งโลก แม้ว่าการถูกจดจำจะเป็นเรื่องที่ดีก็ตาม แต่ฉันอยากให้ผลของการกระทำเป็นประโยชน์ต่อคนอื่นมากกว่า อีกครั้งที่ฉันอยากบอกว่า ฉันไม่ใช่คนดี แต่ฉันก็บอบบางเพียงพอที่จะเจ็บปวดกับเรื่องโหดร้าย แม้ว่ามันจะไม่ได้เกิดขึ้นกับฉัน ฉันสงสารขอทานทุกคนที่เคยพบและเดินผ่านไป ทั้งๆ ที่น้อยครั้งนักที่ฉันจะหยุดเพื่อให้เงินแก่พวกเขา ฉันร้องเพลงสรรเสริญ.... และสดุดี.... โดยหมายความตามนั้นทุกคำมาตั้งแต่เด็ก ฉันร้องสิ่งที่ถูกบอกให้ร้อง ฉันซึมซับความหมายนั้นผ่านการเรียนรู้ แต่ทว่า นั่นก็ไม่ได้ทำให้ฉันยึดถือสถาบันใดเพื่อยึดเหนี่ยวจิตใจเป็นพิเศษ คนทุกคนเกิดมาและมีปฏิสัมพันธ์โลกเท่าๆ กัน ไม่มีความจำเป็นใดที่เราจะต้องยกใครจนสูงเกินไป หรือกดใครจนต่ำเกินไป ทุก action มี reaction มี fan ก็มี anti-fan มีคนรัก ก็ย่อมมีคนเกลียด ถ้าเรายกสิ่งใดสิ่งหนึ่งขึ้น ก็เท่ากับว่าเรากดบางสิ่งลงมาอย่างช่วยไม่ได้ ยิ่งยกสูงก็ยิ่งกดแรง คนที่โดนกดก็ไม่น่าจะพอใจกันเท่าไหร่หรอก จริงไหม?
ฉันนับถือความคิดของคนคนนี้ คนที่ฉันเห็นเป็นนักแสดงอยู่เสมอ และเขาก็เป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงเสียด้วย หลายคนคงคิดว่าการชื่นชมใครสักคน คงจะเป็นเพราะหน้าที่หรือบทบาทที่เขากระทำ ฉันไม่ได้ชื่นชมเขาเพราะเขาเป็นนักแสดงหรอกนะ แต่ฉันชอบความคิดของคน (ที่เป็นนักแสดง) คนนี้น่ะ หลายอย่างที่พูดมามันดูน่าชื่นชมในฐานะมนุษย์คนหนึ่งเลยเชียวนะ หรืออาจเป็นเพราะเขามีความคิดตรงกับที่ฉันคิดอยู่เสมอแหละมั้ง เดี๋ยวนี้คนเราใช้เวลาคิดกันน้อยลง คำที่บอกให้คิดก่อนพูด หมายความถึง คิดเพื่อที่จะไม่ต้องมาเดือดร้อนภายหลัง ไม่ใช่แค่ 'คิด' อย่างที่เข้าใจกันหรอก คิดแบบที่ฉันถนัดน่ะเหรอ? ก็ 'คิดทิ้ง คิดขว้าง' ยังไงล่ะ! คิดๆ มันไปเถอะ อะไรก็ได้ ไม่แค่สักแต่ว่า 'คิดถึง' 'คิดรายจ่าย' หรือ 'คิดจะโกงกิน' ไปวันๆ เท่านั้นนะ
ไม่รู้สิ ฉันอาจจะถนัดวิชาปรัชญามากกว่าคนทั่วไปก็ได้นะ อะไรที่ฟุ้งๆ ที่ต้องใช้จินตนาการ หลายครั้งที่ฉันต้อง 'แสดง' หรือ act อะไรสักอย่างฉันมักทำได้ดีเสมอ ฉันไม่ได้หลงใหลการแสดง ฉันไม่ได้อยากแสดง และฉันก็ไม่ได้อยากจะพูดเกี่ยวกับสิ่งที่ฉันแสดง เพียงแต่ ฉันสามารถจะจมอยู่กับเรื่องที่ประสบได้ง่ายกว่าคนอื่นเท่านั้นเอง ฉันสามารถอ่านเรื่องบางเรื่อง บทความบางบทความแล้วทำความเข้าใจกับตรรกะทั้งหมดได้โดยง่าย อืม~ เรียกว่า 'ทำความเข้าใจได้โดยไม่ลำบากเท่าไหร่' จะดีกว่า อ่านเรื่องเศร้าแล้วเจ็บปวด อ่านเรื่องโหดร้ายแล้วรู้สึกอึมครึมพิกล ไม่ใช่ข้อดีเลยใช่ไหม? นั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมฉันมักบอกว่า ฉันเป็นคนอ่อนแอ ก็ฉันเป็นคนอ่อนไหวนี่นา คนอ่อนไหวมักเป็นคนอ่อนแอ มันไม่ได้เป็นอย่างนั้นเสมอไป แต่ฉันก็มักจะเหนื่อยล้ากับความรู้สึกต่างๆ ที่มากจนเกินไปจนกลายเป็นคนอ่อนแอในที่สุด ในรอบสามเดือน สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะจิตตกได้หนึ่งถึงสองครั้งเลยทีเดียว
วกกลับมาที่ชื่อเรื่องที่ตั้งไว้ดีกว่า ฟุ้งมานาน ขอจบลงด้วยความคิดของนักแสดงคนนี้ในข่าวล่าสุดที่อ่านมา เอาไว้อ่านเพื่อเก็บมาคิดอีกทีวันหลัง:
"연민이 느껴지는 악역을 해보고 싶다"는 이준기는 "어떤 작품을 성공으로 이끈 주역이라는 말보다 '가능성있는 배우'라는 칭찬이 가장 기분이 좋다"고 밝혔다. 그러면서 이준기는 "배우라는 직업을 즐길 줄 아는 배우가 되고 싶다"는 당찬 꿈을 함께 전했다.

No comments:

Post a Comment